![]() |
นึกถึงเหล็ก นึกถึง เค.ที.เอ็ม.สตีล |
ถึงเวลาใช้เหล็ก มอก. แล้วหรือยัง ???

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก.
เนื่องจากในปัจจุบัน เหล็กมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมต่าง ๆเพิ่มมากขึ้นโดยเป็นองค์ประกอบสำคัญของอุตสาหกรรม ได้แก่ผลิตภัณฑ์เหล็กรูปทรงแบน และผลิตภัณฑ์เหล็กรูปทรงยาว อันล้วนแต่เป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่สำคัญในอุตสาหกรรมหลายประเภท เช่นอุตสาหกรรมก่อสร้าง อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกล ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน ดังนั้น บริษัทผู้ผลิตเหล็กได้ทำการผลิตเหล็กชนิดต่างๆ ออกสู่ท้องตลาดเป็นจำนวนมาก แต่ละบริษัทพยายามที่จะผลิตเหล็กให้มีคุณภาพต่าง ๆ กันตามประเภทของการใช้งาน จึงเป็นความยากลำบากของผู้ใช้ที่จะเลือกใช้เหล็กให้ตรงกับความต้องการของตนจึงได้มีการกำหนดชนิดและปริมาณส่วนผสมไปในเนื้อเหล็กโดยใช้สัญลักษณ์ของธาตุและตัวเลขเป็นตัวชี้บอกจำนวนปริมาณของส่วนผสมที่มีอยู่ จึงได้เกิดเป็น " มาตรฐานเหล็กอุตสาหกรรม " ขึ้น

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหล็กมี 2 ประเภท1.มาตรฐานทั่วไป : เป็นมาตรฐานที่กำหนดเพื่อการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยทั่วไป โดยผู้ประกอบการที่ทำผลิตภัณฑ์สามารถขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานด้วยความสมัครใจ เมื่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์สามารถขอใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานด้วยความสมัครใจ เมื่อสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ตรวจสอบโรงงาน กรรมวิธีการผลิต และทดสอบผลิตภัณฑ์และเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว สำนักงานฯ ก็จะอนุณาตให้แสดงเครื่องหมายมาตรฐานที่ผลิตภัณฑ์นั้นได้
2.มาตรฐานบังคับ : เป็นเครื่องหมายที่แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่เศรษฐกิจของประเทศผู้ผลิตผู้นำเข้า และผู้จำหน่าย จะต้องผลิต นำเข้าและจำหน่ายเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเท่านั้น ปัจจุบัน สมอ. กำหนดออกมาแล้ว 69 รายการ

มอก. มีประโยชน์อย่างไร?
ประโยชน์ต่อผู้ผลิต1. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต
2. ลดรายจ่าย ลดเครื่องจักณ ลดขั้นตอนการทำงานซ้ำซ้อน 3. ช่วยให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพสม่ำเสมอ 4. ทำให้สินค้ามีคุณภาพดีขึ้น และมีราคาถูกลง 5. เพิ่มโอกาสทางการค้า ในการจัดซื้อจ้างของหน่วยงาน ราชการ | ![]() |
ประโยชน์ผู้บริโภค
1. ช่วยในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า 2. สร้างความปลอดภัยในการนำไปใช้ 3. ในกรณีที่ชำรุด ก็สามารถหาอะไหล่ได้ง่าย เพราะสินค้ามีมาตรฐานเดียวกันใช้ทดแทนกันได้ 4. วิธีการบำรุงรักษาใกล้เคียงกัน ไม่ต้องหัดใช้สินค้า ใหม่ทุกครั้งที่ซื้อ 5. ได้สินค้าคุณภาพดีขึ้นในราคาที่เป็นธรรมคุ้มค่ากับ การใช้งาน | ![]() | ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจส่วนรวมหรือประโยชน์ร่วมกัน 1. ช่วยเป็นสื่อกลางเป็นบรรทัดฐานทางการค้า ทำให้ผู้ผลิตและ ผู้บริโภคมีความเข้าใจที่ตรงกัน 2. ก่อให้เกิดความยุติธรรมในการซื้อขาย 3. ประหยัดการใช้ทรัพยากรของชาติ ทำให้มีการใช้ทัพยากร อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด 4. สร้างโอกาสทางการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทย 5. ป้องกันสินค้าคุณภาพต่ำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ สร้าง ความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น